วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

ไฟเบอร์กับการลดความอ้วน

ทราบหรือไม่ว่าทานอาหารจำพวกไฟเบอร์แล้วสามารถลดความอ้วนได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน...

ไฟเบอร์ หรือ เส้นใยอาหาร คือ
ส่วนของโครงสร้างของพืช เช่น กิ่ง ก้าน เมล็ด เป็นส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเซลลูโลส ซึ่งมี
2 ชนิดคือ ไฟเบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้ และ ไฟเบอร์ ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ

เมื่อรับประทาน
ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารที่ไม่ให้พลังงานเข้าไปในร่างกาย มันจะเข้าไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วและอิ่มได้นาน ช่วยลดความอยากอาหารลงไป และสามารถลดพลังงานที่จะได้รับจากอาหารได้จึงส่งผลให้ลดน้ำหนักได้


ไฟเบอร์กับการลดความอ้วน

1. ไฟเบอร์ ช่วยให้อาหารเดินทางเร็วขึ้นและมีเวลาอยู่ในระบบทางเดินอาหารสั้นลง จึงช่วยลดการดูดซึม

2. ไฟเบอร์ ไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลดความอยากอาหารและรับประทานอาหารได้น้อยลง หากใช้ร่วมกับการควบคุมชนิดและปริมาณอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วยจะยิ่งให้ผลดีในการ ลดน้ำหนัก

3. จากหลายๆ การทดลองพบว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี ไฟเบอร์ อย่างน้อย 2 กรัมขึ้นไปช่วยให้น้ำหนักลดลงได้

ใครที่รู้ตัวว่าอ้วน และอยากลดความอ้วน ลองหันมาทานอาหารจำพวกไฟเบอร์ดูกันดีกว่า













ที่มา : http://www.panclinic.com




วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ชี้ 5 วิธีแต่งกายต้องห้ามของคุณผู้ชาย



ชี้ 5 วิธีแต่งกายต้องห้ามของคุณผู้ชาย


ช่วยเพิ่มความดูดี มีสไตล์ พร้อมความมั่นใจ

ใครๆ เคยคิดไหมว่าการแต่งตัวของผู้ชายเราก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าคุณผู้หญิงเหมือนกัน ก็แล้วแต่สไตล์ของตัวเองอาจจะเป็นแบบสบายๆ เสื้อยืดกางเกงยืน หรือถ้าเป็นหนุ่มอ๊อฟฟิตก็แต่งตัวดูหน่อย แต่ไม่ใช่หยิบโน่นผสมนี่แบบนั้นไม่ได้นะคะ อาจทำให้คุณดูไม่ดีและไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ

เราจึงมีวิธีการแต่งตัวพร้อมกับวิธีต้องห้ามมาแนะนำให้คุณผู้ชายได้จำไว้เป็นแบบอย่าง เพื่อจะได้รู้ถึงการแต่งการให้เหมาะสม

1. สวมเสื้อเชิ้ตทับเสื้อคอโปโล หรือเสื้อคอเต่า

วิธีการแต่งกายที่เป็นพื้นฐานนั่นคือ การสวมตัวบางไว้ใน ตัวหนาไว้นอก เมื่อคุณสวมเสื้อเชิ้ตทับเสื้อคอโปโล คุณจึงดูแปลกเอาการ บางคนอาจจะนึกเถียงอยู่ในใจเพราะเห็นการแต่งกายอย่างนี้ในภาพยนตร์ เช่น เรื่อง Ice Storm ของอังลี ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะออกฉายในปี 1997 แต่ก็เป็นหนังย้อนยุคไปสู่ยุค 70's โน่นแนะครับ ถ้าคุณต้องการจะแต่งสไตล์นี้ ผมแนะนำให้เปลี่ยนจากเชิ้ต เป็นแจ็คเก็ตแทนจะดีกว่าครับ

2. เอาเสื้อสเว็ตเตอร์ผูกไว้บนบ่า

วิธีนี้อาจจะทำให้คุณดูเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ถ้าคุณต้องการติดต่อธุรกิจด้วยการแต่งกายเช่นนี้จะ 'เป็นกันเอง'มากเกินไป คุณคงไม่อยากเป็นเด็กหนุ่มเวลาเจรจาธุรกิจหรอกนะครับ ถ้าจะให้ดูดีขึ้น เอาเสื้อสเว็ตเตอร์นั้นผูกไว้เอวดีกว่าครับ

3. ผู้ชายกับผ้าโพกผม

ผ้าโพกผมอยู่กับแฟชั่นผู้ชายมานาน มักเป็นหนุ่มที่เป็นกบฏต่อสังคมเล็ก ๆ หรือมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เช่น พวกศิลปินร็อค Axl Rose หรือ Jon Bon Jovi แต่คุณก็เห็นว่า พวกเค้าเลิกโพกผมกันแล้ว แต่ถ้าคุณไปทะเล โพกผมเพื่อกันลมแรงก็ไม่ว่ากัน

4. กางเกงเอวต่ำ

เซอ เท่ หรือว่าอะไรก็ตามที่คุณให้คำกัดความ การใส่กางเกงเอวต่ำของคุณ แต่คุณรู้มั้ยว่า การใส่กางเกงเอวต่ำนั้น นอกจากจะทำให้ดูไม่สุภาพแล้ว ยังทำให้คุณดูเหมือนเป็นยังไม่โต และทำให้ดูว่าคุณมีรูปร่างที่ไม่สมส่วน ขาคุณจะดูสั้นกว่าปกติ นอกจากนี้เวลาคุณเดิน คุณต้องพยายามไม่ให้ขอบเอวกางเกงเลื่อนลงมา คุณจึงต้องเดินขากางกว่าปกติ ทีนี้รู้แล้วสิครับว่า เหตุใดสาว ๆ จึงไม่อยากเดินด้วย

5. กางเกงขาสั้นจุดจู๋

คุณอาจจะอยากทำตัวให้เซ็กซี่ ด้วยการใส่กางเกงขาสั้น ที่สั้นกว่าปกติ ถ้าผู้หญิงใส่ล่ะใช่แน่ แต่ถ้าคุณผู้ชายใส่ล่ะก็ เคยสังเกตท่านั่งของคุณผู้ชายบ้างมั้ยครับว่าต่างจากผู้หญิงอย่างไร ผู้ชายจะนั่งแบะขามากกว่าผู้หญิง แล้วถ้าคุณใส่กางเกงขาสั้นกุดแบบนั้นล่ะก็ รับรองไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากนั่งใกล้คุณแน่นอน


เมื่อรู้ถึงข้องต้องห้ามเหล่านี้แล้ว ก็ลองเปลี่ยนพฤติกรรมหรือการแต่งตัวเสียใหม่นะค่ะ แล้วคุณจะดูดีมีสไตล์กว่าที่คุณเป็นอยู่



ที่มา : http://www.panclinic.com




วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว

เรื่องของการปลุกระดมสมองให้สดชื่นแจ่มใสเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ต้องการ เพราะเมื่อสมองแจ่มใส ปลอดโปร่ง อะไรก็ดีตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การฟัง พูด อ่าน เขียน จดจำ หรือความคิด

กลับกัน หากสมองเหี่ยว ฝ่อ ไม่สดใส อาจจะเกิดจากความเครียด หรือการหมกมุ่นกันเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานๆ หรือ ขาดการพักผ่อน ทักษะดังกล่าวก็จะลดน้อยถอยไป กรรมวิธีที่จะทำให้สมองแข็งแรงไปอย่างยืนยาวนั้น สถาบันดีสปายน์ไคโรแพรคติก เทคนิคมาแนะนำ


1. ดื่มน้ำให้พอ เพราะสมองของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 85% ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดน้ำ สมอง ก็จะทำงานช้าลง ทำให้กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดอะไรไม่ค่อยออก

แต่การดื่มน้ำนั้นแต่ละคนจะมีความต้องการน้ำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กันน้ำหนัก และพฤติกรรมต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว และการบริโภค แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำวันละ 3-5 ลิตร ส่วนเด็ก 2-3 ลิตร

2. หายใจลึกๆ ช่วยส่งพลังงานไปถึงสมอง ถ้านั่งหายใจ หลังก็ควรจะตั้งตรง จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น และถ้านั่งนานเนไปควรเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้น ยืดสาย เพื่อให้ปอดขยาย

3. เลือกรับประทานอาหาร ที่มีไขมันดีทดแทนไขมันในสมองที่สึกหรอ อาทิ น้ำมันปลา สารสกัดจากใบแปะก๊วย ปลาแซลมอน อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินซี

4. ตั้งโปรแกรมให้สมอง โดยใช้ความตั้งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง สมองจะค่อยๆ ปรับพฤติกรรมให้ไปสู่เป้าหมายได้

5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ไปกระตุ้นพลังออร่าให้สว่างสดใสจะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต

6. ฝึกสมาธิพัฒนาอารมณ์ให้สมองผ่อนคลาย จะช่วยทำให้มีจินตนาการมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำได้ทั้งตื่นเช้าหรือก่อนนอนทุกวัน

7. ออกกำลังกาย กระตุ้นการทำงานของสมองพร้อมกับดื่มน้ำบ่อยๆ

8. หาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต เช่น รู้จักคนใหม่ๆ อ่านหนังสือเล่มใหม่ ขับรถเส้นทางใหม่ หรือแลกเปลี่ยนทัศนคติใหม่ๆกับเพื่อน สมองจะหลั่งสารแห่งความสุข เอ็นดอรŒฟิน และสารแห่งการเรียนรู้ โดปามีน ทำให้เกิดการอยากเรียนรู้อย่างมีความสุข

9. รู้จักให้อภัยและลดความโกรธ จะทำให้สูญเสียพลังงานน้อยลง และยังเป็นการช่วยลดภาระให้กับสมอง

10. พูดเรื่องดีๆ กับตัวเองซ้ำๆ ให้เกินวันละ 100 ครั้ง

11. บันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลงในสมุดบันทึก ช่วยทำให้สมองคิดในเชิงบวก ทำให้หลับฝันดี มีสมาธิ

12. พักผ่อนให้เพียงพอ โดยช่วงเวลา 21.00 น. จะเป็นช่วงเวลานอนที่ดีที่สุด

เรื่องนี้ไม่ใช่เหมาะสำหรับเด็ก แต่เป็นเรื่องที่ทุกเพศ ทุกวัยสามารถปฏิบัติได้เป็นการยืดอายุสมอง ให้อยู่กับเราไปได้นานเท่านาน!!










ที่มา http://www.panclinic.com


Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook