วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ผิวหน้า ถือเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ทีเดียว

ความสวยและผิวที่อ่อนเยาว์ ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาอยากจะเป็นเจ้าของด้วยกันทั้งนั้น สาว ๆ ทุกคนจึงต้องพยายามดูแลผิวตัวเองให้ดีที่สุด โดยเฉพาะผิวหน้า ถือเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลยทีเดียว แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ก็ยังมีสาว ๆ ไม่น้อยที่ดูแลผิวไปพร้อม ๆ กับการทำร้ายผิวตัวเองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากจะพินิจพิจารณากันจริง ๆ แล้ว จะเห็นว่ามีพฤติกรรมเพียงไม่กี่อย่างที่สาว ๆ มักจะละเลย และมันส่งผลให้คุณดูแก่ก่อนวัยไปอย่า งไม่ได้ตั้งใจเลยทีเดียว ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

1. ขัดหน้าแรงเกินไป การขัดหน้าในที่นี้ รวมถึงการใช้สครับขัดหน้า ที่คุณอาจคิดไม่ถึงว่ามันทำร้ายผิวหน้าคุณด้วย ดังนั้น หากคุณขัดหน้าแรงหรือบ่อยเกินไป มันก็จะทำให้หน้าคุณแก่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว การขัดหน้าที่พอเหมาะพอดีที่สุด อยู่ที่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ

2. ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์มากเกินไป มอยซ์เจอไรเซอร์ แม้จะดีต่อผิวในเรื่องการทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นก็จริง แต่การใช้มอยซ์เจอไรเซอร์มากเกินไปก็ทำให้เกิดปัญหาผิวได้ไม่น้อย เพราะใบหน้าที่ชุ่มชื้นมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความมันบนใบหน้า ที่มันจะอุดตันรูขุมขน ดังนั้น สาว ๆ ควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์อย่างพอเหมาะ เพราะโดยปกติแล้ว ผิวหน้าของคนเราจะผลิตน้ำมันออกมาให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว สาว ๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้มอยซ์เจอไรเซอร์มากเกินไป ทั้งใช้ในปริมาณมากเกินไป และใช้บ่อยเกินไปด้วย

3. บีบสิว สาว ๆ ส่วนใหญ่รู้ดีว่าพฤติกรรมการบีบสิว ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย กลับกัน กลับทำให้ใบหน้าของเรามีแผลเป็นจากการบีบสิว แต่หลายครั้งสาว ๆ ก็ยังคงแอบบีบสิวอยู่เป็นประจำ ซึ่งนั่นจะทำให้หน้าคุณไม่สวยใส และแก่ก่อนวัยอันควรในที่สุดค่ะ

รู้อย่างนี้แล้ว สาว ๆ จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมยอดนิยมทั้ง 3 อย่างข้างต้นนี้นะคะ ทั้งนี้ ก็เพื่อสุขภาพผิวหน้าที่สดใส อ่อนเยาว์ และสุขภาพดีตลอดไปค่ะ






ที่มา : http://www.panclinic.com




วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หนาวนี้เตรียมรับมือ ไข้หวัด

ใครๆ ก็รู้ว่าอาการเป็นหวัดเป็นอย่างไร แต่จะทราบหรือไม่ว่าไวรัสที่ทำให้คนเราเป็นหวัดนั้นมีอยู่ มากกว่า 200 ชนิดที่แตกต่างกัน นั่นล่ะจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่ว่าเหตุใดเราจึงเป็นหวัดหลายครั้งในหนึ่งปี

ดร.ทริชา แมคแนร์ เขียนไว้ในเว็บไซต์
www.bbc.co.uk/health บอกว่า ในผู้ใหญ่มักจะติดเชื้อหวัดกันปีละ 2-3 ครั้ง ส่วนในกลุ่มเด็กจะเป็นมากกว่า ประมาณ 6-8 ครั้ง

การติดเชื้อหวัด นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อคนไปสัมผัสเชื้อไวรัสจำนวนหนึ่งแล้วเอามือไปโดนจมูกหรือตาของตัวเองเข้า เจ้าเชื้อไวรัสนั้นก็จะได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุ่นชื้น แล้ว มันก็จะโตวันโตคืน กระบวนการติดเชื้อหวัดจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 8-12 ชั่วโมง หลังจากไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ภายในเวลาประมาณ 10 ชั่วโมงอันเป็นที่ทราบกันดีว่านั่นคือระยะฟักตัว อาการก็จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นั่นหมายถึงว่าเพียงไม่ถึงครึ่งวันหลังจับมือกับคนที่เป็นหวัด คุณก็จะมีอาการไม่พึงปรารถนา ตามมาแล้ว

อาการไข้หวัด จะพุ่งสูงสุดในระยะหลังติดเชื้อ 36-72 ชั่วโมง อาการจะมีตั้งแต่ คันคอ คอแห้ง เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอจาม เสียงแหบแห้ง แน่นจมูก ปวดหัวนิดหน่อย มีไข้อ่อนๆ อาการจะเริ่มดีขึ้นหลัง 3 วัน และหายไปประมาณ 7 วัน แต่บางรายอาจจะอยู่ทนนานไปจนถึง 2 สัปดาห์

การรักษา แม้ว่าจะมีงานวิจัยในหลายทศวรรษที่ผ่านมาบอกว่าไม่มีการรักษาไข้หวัดได้ง่ายๆ ยาปฏิชีวนะที่มีอยู่ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อไวรัส ส่วนเรื่องการกินวิตามินซี เพื่อป้องกันหวัดก็ยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่ ล่าสุดจากการทบทวนการศึกษากว่า 30 ชิ้น แสดงว่าในคนที่มีความเครียดมากสามารถลดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นหวัดลงได้เมื่อได้รับวิตามินซี แต่ก็มี ผลน้อยมากกับคนที่เป็นหวัดแล้ว






ที่มา : www.panclinic.com


ประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่น

ใครที่ชอบอาบน้ำอุ่น จากเครื่องทำอุ่น รู้ไมว่ามีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกาย วันนี้เกร็ดความรู้มีประโยชน์ของเครื่องทำน้ำอุ่นมาบอกกัน...




- กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การอาบน้ำอุ่นเป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้อาบ สายน้ำอุ่น ณ อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้สูบฉีดไปทั่วร่างกาย




- การอาบน้ำอุ่นช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย และเกิดการตื่นตัว ช่วยรักษาบรรเทาความปวดเมื่อย และความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตามร่างกาย




- ปราศจากสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน การอาบน้ำในอุณหภูมิที่พอเหมาะ จะช่วยรักษาผิวพรรณ ชะล้างไขมันบนผิวหนัง และทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขนได้ดีกว่า




เพิ่มความสดชื่น คืนความกระปรี้กระเป่า เพราะสายน้ำอุ่นจะลดประจุบวก และเพิ่มประจุลบรอบข้างในอากาศขณะอาบน้ำช่วยทำให้คุณหายใจได้คล่องขึ้น รู้สึกสดชื่นภายหลังจากอาบน้ำ




รู้อย่างนี้แล้ว หันมาอาบน้ำอุ่นกันดีกว่า เพื่อสุขภาพที่ดี.

ที่มา : http://www.panclinic.com


วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Best Buy Beauty ... Moisturizers

Pan Facial Night Cream ครีมบำรุงผิวช่วงกลางคืน ช่วนในการบำรุงผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมากเป็นพิเศษ เนื้อครีมเนียมนุ่ม ไม่เหนียวเหนอะหระ ขนาด 25 กรัม / 175 บาท / 50 กรัม / 455 บาท

Pan Facial Day Cream ครีมบำรุงผิวหน้าช่วงกลางวัน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์ ไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า ขนาด 50 กรัม / 295 บาท

Wilma Collagen 2000 มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจลสูตรออกซิเจนบริสุทธิที่คอยหล่อเลี้ยงผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส ดูมีชีวิตชีวา แลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยสารอาหารบำรุงผิวจากธรรมชาติ ขนาด 30 ML / 4,500 บาท

Hydra Dew Moisturizing Day Cream ครีมบำรุงผิวเนื้อนุ่ม บางเบา เกลี่ยง่าย อุดมด้วยคุณค่าสารอาหาร และกรดไขมันจำเป็นต่อผิวที่ให้ความชุ่มชื้น พร้อมรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไว้กับผิวชั้นไขมัน พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอย ช่วยลดความตึงเครียดและสร้างเสริมการปกป้องผิวตามธรรมชาติ เพื่อผิวนุ่ม ชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลอย่างเห็นได้ชัด ขนาด 59 g /3,200 บาท

Pan Dermacare Moisturizers for dry and Normal Skin ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อผิวนุ่ม ชุ่มชื้นได้ยาวนานด้วยคุณค่าบำรุงของ wild pansy Nanoherb และ Aloe Vera เนื้อครีมบางเบาโดยไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะไว้บนผิวหน้า ใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบาง แพ้ง่าย และผู้ที่มีโอกาสแพ้ Nickel ขนาด 30 กรัม / 700 บาท
















ผิวขาดมอยเจอร์ไรเซอร์ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย...

ผลการศึกษาเรื่องได้เปิดเผยไว้ใน British Journal of Dermatology ซึ่งระบุว่า หนทางที่จะทำให้ใยหน้าเรียบเนียน ปราศจากริ้วรอย ก็คือการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ ค้นพบว่าการที่ผิวแห้งจะเป็นสาเหตุที่ไปเร่งให้เกิดริ้วรอยเร็วขึ้นกว่าปกติได้มากกว่า 2 เท่า และยังระบุว่าผู่หญิงที่มีใบหน้าชุ่มชื้น จะเกิดริ้วรอบได้ช้ากว่าผู้หญิ่งที่มีผิวแห้ง เพียงแค่ปกป้องผิวให้ชุ่มชื้นทุกวัน ด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดี ตั้งแต่อายุน้อยๆ ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงริ้วรอยเหล่านี้ได้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่สายจนเกินไปที่จะเริ่มบำรุงผิวและปกป้องผิวของคุณจากริ้วรอยเสียตั้งแต่วันนี้







ที่มา : http://www.panclinic.com/tips_and_trick.asp?MID=122&CID=3396

Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook