วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีเลือกแชมพู เพื่อสุขภาพผมสวย

แชมพูสระผมที่ดีและเหมาะสม ควรจะทำหน้าที่ชำระล้างสิ่งสกปรกออกจากหนังศีรษะได้หมดจรด โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อหนังศีรษะ และไม่ทำให้เส้นผมแห้งแตกปลาย ในขณะเดียวกัน ควรมีส่วนช่วยให้เส้นผมนุ่มลื่นและช่วยสางหวีเส้นผมได้ง่าย เมื่อผมแห้ง

ส่วนประกอบสำคัญในแชมพูสระผม

สารทำความสะอาดชนิดที่มีคุณภาพทางเคมีดีพอสมควร มีปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสม ไม่เข้มข้นเกินไปและไม่ต่ำจนเกินไป

สารคอนดิชั่นนิ่ง ซึ่งเป็นสารช่วยเคลือบเส้นผมช่วยให้เส้นผมนุ่มลื่นไม่พันกัน และยังช่วยปกป้องเส้นผมสิ่งแวดล้อมภายนอกได้บ้าง

การเลือกซื้อแชมพูสระผม

แชมพูสระผมผู้ใหญ่ ขอแนะนำว่าไม่ควรเลือกชนิดที่มีฟองมากเกินไป เพราะสารทำความสะอาดเหล่านั้น มักจะมีคุณภาพทางเคมีที่ต่ำไม่เหมาะกับเส้นผม และผิวหนัง เหมาะที่จะเป็นส่วนผสมในน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาถูพื้นมากกว่า สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าเมื่อสระผมด้วยแชมพูที่มีฟองมาก ๆ และสระเป็นประจำเส้นผมจะแห้งแตกปลายและไร้น้ำหนัก การใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารคอนดิชั่นนิ่ง จะช่วยรักษาคุณภาพเส้นผมได้พอสมควร ส่วนสารอาหารอื่น ๆ ที่ใส่เสริมในแชมพู เช่น วิตามินชนิดต่าง ๆ อโลวีร่า หรือสารสกัดสมุนไพรอื่น ๆ ที่โฆษณาว่า ให้ประโยชน์ต่อเส้นผมนั้น ในความเป็นจริงไม่มีส่วนช่วยให้เส้นผมที่เสียไปแล้วดีขึ้นเลย ผู้ที่มีผมเสีย เพราะได้รับการแต่งสีผม ดัดผม ควรจะตัดผมที่เสียทิ้งไปโดยไม่ต้องเสียดาย

แชมพูสำหรับเด็ก จะมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากแชมพูสำหรับผู้ใหญ่ตรงที่ว่า สารทำความสะอาดจะมีคุณภาพที่อ่อนละมุนต่อผิวหนังมากที่สุด ที่สำคัญสูตรแชมพูสำหรับเด็กจะไม่มีสารคอนดิชั่นนิ่ง เพราะเส้นผมเด็กบาง ไม่หนา และไม่ดกเหมือนผู้ใหญ่ จึงไม่ควรให้เด็กใช้แชมพูผู้ใหญ่ และการที่ผู้ใหญ่ใช้แชมพูเด็กก็จะทำให้ไม่ ได้รับประโยชน์ต่อเส้นผมเท่าที่ควร

แชมพูสมุนไพร หากถามว่า มีความจำเป็นมากน้อยเพียงไรให้ประโยชน์ได้มากมายต่อเส้นผมจริงหรือ คงตอบว่าไม่จริง เพราะหลักคือใช้แชมพูเพื่อทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ เท่านั้น หากต้องการใช้สมุนไพร ควรใช้สมุนไพรสดเช่นในสมัยโบราณจะให้ผลดีที่สุด เช่น น้ำเมือกจากผลมะตูมและประคำดีควาย ทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติเป็นสารทำความสะอาด ที่ดี ในสมัยโบราณมีการนำมาใช้ทั้งซักผ้าและสระผม แต่ถ้านำสารสกัดมาผสมในแชมพูสระผม ที่มีสารทำความสะอาดชนิดสังเคราะห์แล้ว ประโยชน์จากสมุนไพรจะไม่เกิดอาจให้ผลตรงกันข้ามด้วยซ้ำไป เพราะการนำสมุนไพรมาใช้ควรจะใช้เป็นหรือผ่านขบวนการสกัดที่เหมาะสม มิฉะนั้นคุณค่าจะสูญสลายไป

นอกจากนี้แชมพูที่ดีที่ได้มาตรฐานควรจะมีการปรับพีเอชให้เป็นกลาง เพื่อไม่ให้ระคายเคืองหนังศีรษะ ควรมีการเติมสารต้านเชื้อจุลรินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะสารสกัดสมุนไพร หรือสมุนไพรสดเชื้อจุลินทรีย์ มักจะเจริญเติบโตได้ง่าย หากใช้แชมพูสมุนไพรที่ไม่ได้ผ่านขบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน อาจมีปัญหาหนังศีรษะคัน ผมร่วงได้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์จากสมุนไพร หากพบปัญหาที่ว่าไปนี้ควรหยุดใช้แชมพูที่กำลังใช้อยู่ทันที

แชมพูผสมสารขจัดรังแค สำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังศีรษะคันมีรังแคควรเลือกใช้แชมพูประเภทนี้ เช่น ซิ้งไพริไทออน การจะใช้ให้ได้ผลควรมีการใช้อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนจะหยุดใช้ แต่หากยังไม่ได้ผลควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้แชมพูผสมสารต้านเชื้อรา ซึ่งแชมพูกลุ่มนี้ถูกจัดเป็นตำรับยาจะมีจำหน่ายในร้านขายยาเท่านั้น







ข้อมูลจาก http://www.panclinic.com


วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

5 วิธีดูแลเท้าของคุณในช่วงฤดูฝน

1. ไม่ควรเดินเท้าเปล่า เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บหรือ เป็นแผลบริเวณเท้าเนื่องจากถูกแก้วบาด หรือตอไม้ทิ่มตำ และเมื่อมีบาดแผลดังกล่าวแล้วยังเดินย่ำน้ำต่อจะเกิดอันตรายจากการติดเชื้อสูงขึ้นไปอีก

2. ขณะเดินอยู่ในน้ำ
เราควรยกเท้าเหนือน้ำเมื่อต้องการจะก้าวเท้าต่อไป ไม่ควรก้าวเท้าโดยให้เท้าอยู่ใต้น้ำ เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้เดินช้าลง และใช้เวลาลุยน้ำนานขึ้น โดยได้ระยะทางน้อย

3. เมื่อพ้นเขตน้ำท่วมแล้ว
ต้องรีบหาน้ำสะอาดล้างเท้าในทันที โดยใช้น้ำสะอาดให้มากพอ ถูสบู่บริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับน้ำ เน้นตรงซอกเท้า ซอกเล็บด้วย บริเวณซอกเล็บควรใช้ แปรงอ่อนๆ จุ่มสบู่เล็กน้อยและถูเบาๆ ทำให้เชื้อโรคหรือไข่พยาธิต่างๆ หลุดออกไปได้หมด หรือจะแช่เท้าในอ่างบรรจุน้ำสะอาดสัก 15-30 นาที แล้วเช็ดเท้าให้แห้ง อาจใช้แป้งฝุ่นโรยสัก เล็กน้อยเพื่อเป็นการหล่อลื่นผิวหนัง

4. ถ้ามีอาการคันบริเวณผิวหนังซึ่งจุ่มน้ำ
แสดงว่าผิวหนังได้รับการระคายเคืองมากจากสิ่งปฏิกูลในน้ำ ควรทายาแก้คัน เช่น คาลาไมน์ หรือครีมแก้คัน อื่นๆ เช่น ไทรแอมซิโนโลน

5. สิ่งของที่เปียกน้ำ
ได้แก่ รองเท้า พรมรถยนต์ เบาะรถยนต์ ควรนำไปตากแดด ให้แห้งสนิท เพื่อขจัดความชื้น รวมถึงเป็นการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจติดค้าง อยู่ในสิ่งของดังกล่าวให้หมดไป






ที่มา: www.panclinic.com




วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กินชะลอความชรา

กินชะลอความชรา


ไม่มีใครอยากแก่.. แล้วจะทำอย่างไรให้ไม่แก่ก็ไม่ได้ เราต้องร่วงโรยไปตามกาลเวลา แต่จะทำอย่างไรให้แก่ช้านั้นมันขึ้นอยู่กับเราค่ะ งั้นเรามากินเพื่อชะลอความชราที่กำลังจะมากันดีกว่านะค่ะ



1. ปลา ควรเป็นอาหารมื้อหลัก ยิ่งเป็นปลาทะเลน้ำลึกยิ่งดีค่ะ



2. กระเทียม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก แต่ถ้าใครยี้กระเทียม เดี๋ยวนี้มีทั้งกระเทียมสกัดเป็นแคปซูล และแบบเม็ดให้เลือกกันค่ะ



3. ชา ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาดำ ชาอูล่ง ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เพียงแค่ดื่มชาเขียวให้ได้วันละ 4 ถ้วยก็ใช้ได้แล้วค่ะ



4. ผักและผลไม้ ควรสรรหามากินให้ครบทุกมื้อ เพราะนอกจากจะมีวิตามินสูงแล้วก็มีสารต้านอนุมูลอิสระอีเช่นกันค่ะ



5. ถั่วต่าง ๆ หรืออาหารที่ทำจากถั่ว เช่น เต้าหู้ ล้วนแล้วแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และดีกับวัยหมดประจำเดือนอีกด้วยค่ะ



มีสิ่งที่ควรกินก็ต้องมีสิ่งที่ควรเลี่ยงด้วยนะคะ



- เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ หากดื่มมาก ๆ มันจะไปทำลายทุกระบบของร่ายกายค่ะ



- ไขมันอิ่มตัว ไม่มีประโยชน์แน่ค่ะ แต่สำหรับคนที่ชอบกินพึงระวังไว้ว่า ทุกคำที่กินคือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและโรคร้ายที่จะตามมา



- เนื้อสัตว์ เลือกกินที่ปรุงโดยการต้ม ตุ๋น และไม่กินส่วนที่เป็นมัน หรือถ้างดได้ก็งดไปเลยค่ะ




ที่มา : http://www.panclinic.com


Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook