วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดื่มนมดีนะ

     นมเป็นอาหารที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ นม 1 แก้ว (250 มล.) มีสารอาหารที่จำเป็น และเป็นประโยชน์กับร่างกายคนเรา ได้แก่

     แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นธาตุที่สำคัญที่สุดในการสร้างกระดูก ฟัน และน้ำนม ดังนั้นเด็กในวัยเจริญเติบโต ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ และหญิงที่มีลูกอ่อนควรดื่มนมเป็นประจำ

     วิตามิน วิตามินเอ มีหน้าที่สำคัญต่อระบบสายตา , วิตามินบี B1 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท หัวใจ และระบบขับถ่าย , B2 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และผิวหนัง , B6 ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็ก , B12 สร้างเซลล์ในโพรงกระดูก และเม็ดเลือดแดง วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง สร้างภูมิป้องกันต้านทานโรค และทำลายสารพิษต่าง ๆ วิตามินดี ก่อให้เกิดการป้องกันความผิดปกติของกล้ามเนื้อ และลดไขมันในเส้นเลือด

     โปรตีน ซึ่งจะช่วยสร้างและบำรุงกล้ามเนื้อในร่างกาย ส่วนโปรตีนคุณภาพสูงที่ได้จากนมนี้จะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อโครงสร้างของโปรตีนในร่างกาย

      คาร์โบไฮเดรต : คาร์โบไฮเดรตของนม คือ น้ำตาลของแลคโตส (Lactose)แลคโตสเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งจุลินทรีย์พวกนี้จะอาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของมนุษย์ ช่วยสร้างวิตามิน บี และ ควบคุมจุลินทรีย์อื่นๆ


เมื่อรู้ถึงคุณประโยชน์ของนมว่ามีมากมายขนาดนี้แล้ว มาดื่มนมกันอย่างน้อยวันละ 1 แก้วเพื่อร่างกายที่แข็งแรง


ที่มา : www.panclinic.com

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โชว์แผ่นหลังไร้สิว ได้ไม่อายใคร


      ไม่ใช่เพียงแค่บนใบหน้าที่เป็นปัญหากวนใจเท่านั้นเจ้าสิวพากันผุดขึ้นที่หลังจนทำให้หลังเนียนเต็มไปด้วยตุ้มแดง ซึ่ง ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวที่หลังหลักๆแล้วมีอยู่ 2 ปัจจัยคือ 1.เกิดจากชีวิตประจำวันของเราเอง 2.เกิดจากฮอร์โมนของเรา วันนี้มีวิธีจัดการกับสิวบนหลังมาฝากสาวๆๆ

      สิวที่หลังมักขึ้นมาจากเหงื่อออกและแห้งไปกับตัว ควรอาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออกแล้วเช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อที่แห้งสะอาด จะช่วย แนะนำให้มาใช้สบู่ก้อนที่มีคุณสมบัติที่ลดแบคทีเรีย 24 ชั่วโมง หรือสบู่ที่ใช้ในการรักษาสิวโดยเฉพาะ ก่อนนอนทายาป้องกันเชื่อแบตทีเรีย หรือยาลดการอักเสบของสิว ทาบริเวณหลังที่เกิดสิวก่อนนอนทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการทาโลชั่นหรือออยล์บริเวณหลัง หลังจากอาบน้ำ สาว ๆ หลายคนมักจะใช้เบบี้ออยล์ทาทั่วตัว ขณะตัวเปียก ก่อนจะเช็ดตัว ซึ่งออยล์จะไปเพิ่มน้ำมันบนผิว ให้เกิดสิวได้โดยง่าย

ลองนำไปใช้กันดูค่ะ จะได้อวดแผ่นหลังกันได้อย่างไม่ต้องอายใครกันอีก



ที่มา : www.panclinic.com

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

“กระ”ป้องกันให้ตรงจุดเผยผิวใสอย่างมั่นใจ


      หนึ่งปัญหาที่ทำให้สีผิวไม่กระจ่างใส ที่รบกวนใจหลายๆคนไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องปัญหาจุดสีน้ำตาลที่เรียกว่า “กระ”

กระ (Freckle) คือ อะไร
      กระ คือ ความผิดปกติของสีผิว มีลักษณะเป็นจุด (Macule) สีน้ำตาล มักเกิดกระจายอยู่ทั่วใบหน้าพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายกระ อาจจะนูนหรือไม่นูนก็ได้ขึ้นกับชนิดของกระ

กระ แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้
      1. กระตื้น ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ มีขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร ขอบเขตไม่ชัดเจน และมักพบกระจายทั่วใบหน้า ถ้าโดนแดดสีมักจะเข้มขึ้น แต่ถ้าไม่โดนแดดนานๆ สีมักจะจางลงได้เอง

     2. กระลึก ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทาๆ เห็นเป็นเงาลึกๆ ส่วนใหญ่อยู่บริเวณโหนกแก้ม 2 ข้าง

     3. กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มสีน้ำตาล หรืออาจเป็นสีดำ จะเป็นก้อนเล็กๆ ผิวเรียบหรือขรุขระก็ได้ บางครั้งดูคล้ายหูด มักพบบริเวณใบหน้า คอ หรือลำตัวก็ได้

     4. กระแดด มีลักษณะเป็นดวงสีน้ำตาล ผิวเรียบ ส่วนใหญ่พบในคนสูงอายุหรือคนที่ต้องทำงานอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานาน

สาเหตุของการเกิดกระ

     1. พันธุกรรม

     2. แสงแดด

การป้องกันและรักษา
      1. หลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากเท่าที่จะมากได้ แต่ถ้าหลีกเหลี่ยงใม่ได้ควรจะสวมหมวกหรือเสื้อแขนยาวเพื่อป้องกันแสงแดด

     2. ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเผชิญแสงแดดน้อยหรือมากก็ตาม เพราะแสงแดดจะเป็นตัวกระตุ้นให้สีเข้มขึ้น

     3. สามารถรักษาโดยใช้เลเซอร์ ควรดูแลบริเวณที่ทำการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะกรณีที่ใช้เลเซอร์

     ปัญหาผิวต่างๆเหล่านี้ล้วนมีสาเหตุและที่มา การป้องกันจึงเป็นแนวทางการดูแลผิวพรรณที่ดีที่สุด ควรดูแลเรื่องครีมบำรุงและครีมกันแดดให้มากขึ้น เพราะถ้าหากละเลยแล้วอาจจะทำให้กระกลับมาขึ้นเหมือนเดิม




ที่มา : www.panclinic.com

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดูแลปรนนิบัติผิวบอบบางแพ้ง่าย




ผิวแพ้ง่าย บอบบาง (Sensitive Skin)
คือสภาวะที่ผิวไวต่อสภาพแวดล้อมภายนอก อาทิเช่น อากาศร้อน หนาว แสงแดด หรือสายลม และแม้แต่การทาผลิตภัณฑ์ใดๆไว้บนผิวเป็นระยะเวลาหนึ่ง จะมีอาการ เช่น คัน แห้งตึง ไหม้ บางครั้งอาจพบสิวอุดตันและสิวหนอง และบางครั้งก็เกิดที่ระบบภูมิคุ้มกันทำให้เกิดการแดง หรือแห้งลอกได้ ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกาย

ปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวแพ้ง่ายและตัวกระตุ้น

1.ปัจจัยภายนอก คือ ถูกกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น แพ้แดด , แพ้ฝุ่น,แพ้อากาศ , แพ้เครื่องสำอาง

2. ปัจจัยภายใน มีแนวโน้มเกิดจากพันธุกรรม


การดูแลผิวบอบบางแพ้ง่าย

- ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารที่สงสัยว่าอาจจะเกิดอาการแพ้ สิ่ งที่ผิวมักแพ้บ่อยๆ คือน้ำหอม สารกันเสีย กรด AHA ต่างๆ และ แอลกอฮอล์ หากเครื่องสำอางมีสารเหล่านี้อยู่ ก็ควรเลี่ยงไว้ก่อน

- ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนต่อผิว หรือชนิดไม่มีฟองและเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติ Nickel Block เพื่อให้ผิวสามารถทนต่อการสัมพัสสารนิกเกิลได้นานขึ้น (เช่น ผลิตภัณฑ์ Pan Dermacare)

- เน้นการบำรุงผิวให้มาก ทากันแดดให้หนาพอ และทาสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงแสงแดด ทานอาหารเสิมกลุ่ม EPO ซึ่งสกัดมาจากดอก Evening primrose oil จะลดอาการแพ้ง่ายและทำให้ผิวแข็งแรงเร็วขึ้น ร่วมกับหารทำทรีทเม้นท์กลุ่มบำรุงผิว

เมื่อรู้ว่าปัจจัยที่มีผลทำให้ผิวเกิดการแพ้ไม่อยากให้ปัญหาผิวเกิดขึ้นบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนน่ารำคาญ ดังนั้นผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงควรระมัดระวังและดูควรดูแลมากกว่าผิวประเภทอื่นให้เป็นพิเศษไม่ว่าจะการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และการกิน



ที่มา : http://www.panclinic.com

Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook