วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ผิวลาย หรือ รอยแตก

แค่ได้ยินคำว่า ผิวลาย หรือ รอยแตกลาย สาว ๆ หลายคนคงร้องยี้แล้วเบือนหน้าหนี ก็จะมีใครบ้างละคะ ที่อยากจะให้ริ้วรอยพวกนี้ปรากฏขึ้นบนเรือนร่างไม่ว่าจะเป็นบริเวณใด ๆ ก็ตาม แต่เคราะห์ร้ายของสาว ๆ มักอยู่ที่ว่า กว่าที่เราจะคิดถึงมัน เจ้าผิวแตกลายพวกนี้ก็มาปรากฎให้เห็นแล้ว เพราะฉะนั้น เรามาหาวิธีดูแลผิวพรรณเพื่อป้องกันอาการแตกลายนี้กันดีกว่าค่ะ แต่ว่าก่อนอื่น เราไปรู้จักกันก่อนดีกว่า ว่าอาการ "ผิวลาย" ที่ว่านี้ความจริงแล้วคืออะไร และเกิดมาจากสาเหตุใดกันค่ะ

"ผิวลาย" คืออะไร

ผิวลาย คือ อาการที่คอลลาเจนซึ่งคอยให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวหนังถูกทำลาย จากการยืดขยายที่มากเกินไป เมื่อคอลลาเจนไม่สามารถรับแรงขยายนั้นได้ จึงเกิดริ้วรอยขึ้น อันเป็นที่มาของรอยแตกลายหรือผิวลายนั่นเอง

"ผิวลาย" เกิดจากสาเหตุใดบ้าง

สำหรับบุคคลที่มีโอกาสเกิดผิวลายได้ง่ายที่เรารู้กันดีก็คือหญิงมีครรภ์ เนื่องจากขนาดครรภ์ที่ขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังที่หน้าท้องรองรับการขยายนั้นไม่ทันจึงเกิดริ้วรอยแตกลายขึ้นดังกล่าว นอกจากนี้กลุ่มเสี่ยงอีกกลุ่มก็คือคนที่มีรูปร่างตุ้ยนุ้ย อันเกิดจากเหตุผลประการเดียวกัน ส่วนคนที่น้ำหนักเพิ่มหรือลดอย่างกระทันหันก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ออาการเกิดผิวแตกลายด้วย เนื่องจากผิวหนังมีการยืดหดเร็วเกินไปนั่นเอง นอกจากนี้คนที่ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน อย่างเช่น ใช้ยาทาไฮโดรคอติซอนนานติดต่อกันหลายสัปดาห์ หรือทานยาคอติโคสเตียรอยด์ติดต่อกันหลายเดือน ก็จะทำให้เกิดอาการผิวลายได้เช่นเดียวกันค่ะ

"ผิวลาย" มักเกิดขึ้นบริเวณไหน และมีลักษณะอย่างไร

บริเวณที่มักเกิดผิวลายได้ง่ายอยู่ที่ ทรวงอก, ต้นขา, สะโพก และบั้นท้าย ในขั้นแรกมักปรากฏให้เห็นเป็นริ้วจาง ๆ สีออกม่วงหรือแดง และจะลึกขึ้นจนมีลักษณะเป็นริ้วสีขาว เมื่อลูบดูจะรู้สึกขรุขระเป็นคลื่น

ป้องกันผิวจากการแตกลายได้อย่างไร

หัวใจสำคัญที่สุดของการป้องกันผิวแตกลาย ก็คือการดูแลรักษา และบำรุงผิวของเรานั่นเอง ถ้าอย่างนั้นไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเราจะต้องดูแลผิวกันอย่างไรบ้าง

1. ทานอาหารที่มีสารที่เป็นประโยชน์ต่อผิว
แร่สังกะสี, วิตามินเอ, ซี, ดี และโปรตีน เป็นสารอาหารชั้นเลิศสำหรับการดูแลผิวของเรา นอกจากนี้กาารดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งช่วยป้องกันอาการแตกลายได้ และหากเป็นไปได้ควรลดหรืองดเครื่องดื่มจำพวก ชา, กาแฟ และโซดาค่ะ

2. ขัดผิว
การขัดหรือสครับผิว เป็นการขัดเอาผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้วออก กระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และผิวหนังรับความชุ่มชื้นได้ดีขึ้นอีกด้วย

3. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอไรเซอร์เป็นตัวช่วยที่ดีอีกตัวในการป้องกันผิวจากริ้วรอยแตกลาย โดยเฉพาะในคุณแม่ที่กำลังมีน้อง การเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเพียงพอจะเสริมความแข็งแรงให้กับคอลลาเจนอีลาสตินที่ผิวหนัง ทำให้เจ้าตัวคอลลาเจนรองรับแรงยืดขยายได้ ไม่เกิดอาการฉีกขาดซึ่งเป็นสาเหตุของผิวลาย ทั้งนี้ตรวจเช็คดูด้วยนะคะว่าครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นที่คุณเลือก ใช้ มีส่วนประกอบอย่างวิตามินซี, วิตามินอี, โกโก้บัตเตอร์, น้ำมันจากนกอีมู, น้ำมันสกัดจากจมูกข้าวสาลี, น้ำมันสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ และขี้ผึ้งลาโนลินอันได้จากขนแกะหรือไม่ เพราะสารเหล่านี้ล้วนแต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวพรรณทั้งนั้นเลยค่ะ บำรุงผิวบริเวณที่เสี่ยงต่อการแตกลายวันละสองครั้ง จะช่วยป้องกันอาการผิวลายได้ค่ะ

รอยแตกลายนี้หากเกิดขึ้นแล้วจะไม่หายไป แม้ผิวหนังจะหดกลับเข้าสู่สภาพเดิมแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ให้เกิดผิวแตกลายที่บริเวณใด ๆ บนเรือนร่างคือการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอค่ะ สาว ๆ คนไหนที่ไม่ค่อยจะทาครีมบำรุงผิว ก็อย่าลืมหันใส่ใจสักนิดนะคะ เพื่อจะได้มีผิวสวยอยู่กับเราไปนาน ๆ







ที่มา : http://www.panclinic.com


7 พฤติกรรมทำลายผมสวย

แม้ว่าผู้หญิงเราจะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผมตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ซะมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังมีสาว ๆ อีกหลายคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม แต่ไม่ได้ทำให้ผมดีขึ้นแม้แต่น้อย ซึ่งก็มักจะโทษว่าผลิตภัณฑ์ไม่ดีกันทั้งนั้น แต่จริง ๆ แล้วอาจไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไปหรอกค่ะ เพราะในชีวิตประจำวันมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำลายเส้นผมเยอะแยะมากมาย จนอาจจะไปทำลายเส้นผมไปพร้อม ๆ กับการใช้ผลิตภัณฑ์ไปโดยไม่รู้ตัว ว่าแต่ พฤติกรรมทำลายเส้นผมมันมีอะไรกันบ้างนะ เอ้า สาว ๆ ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

1. สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นการทำลายผมโดยไม่รู้ตัว ทั้งผมร่วง ผมแห้ง อีกทั้งการสูบบุหรี่ยังทำให้กลิ่นบุหรี่ติดผมอีกด้วย

2. นอนหลับขณะผมเปียก การนอนโดยที่ผมยังเปียกหรือชื้นอยู่ จะทำให้หนังศีรษะเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราเอาได้ง่าย ๆ และยังส่งผลต่อผม ให้ผมแห้งและแตกปลายได้อีกด้วย

3. เกาศีรษะอย่างแรงขณะสระผม การสระผมควรใช้นิ้วนวดหนังศีรษะ และเลี่ยงการใช้เล็บขูดเกาหนังศีรษะ เพราะอาจจะทำให้ผมขาดร่วงได้ง่าย โดยเฉพาะขณะสระผมที่ผมอ่อนแอที่สุด ดังนั้นสาว ๆ ควรนวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเพียงเบา ๆ เท่านั้น

4. ใช้ผลิตภัณฑ์หลายชิ้นจนเกินไป แม้ว่าแต่ละตัวจะระบุคุณสมบัติไว้มากมาย แต่อย่าลืมว่าการใช้สารเคมีหรือสารบำรุงผมมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลร้ายต่อผมได้เหมือนกัน ทางที่ดีสาว ๆ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เกิน 4 ตัวนะคะ

5. ใช้ออยล์ที่มีความมันมาก ๆ สาว ๆ หลาย ๆ คนชอบที่จะให้ผมตัวเองมันเงาเป็นประกาย แต่การใช้ออยล์หรือผลิตภัณฑ์แบบลีฟออนที่มีความมันมาก ๆ จะทำให้ฝุ่นละอองเกาะติดเส้นผมได้ง่ายขึ้น และนั่นเป็นสาเหตุให้ผมแห้งเสียได้ง่ายด้วยค่ะ

6. รัดผมแน่นเกินไป โดยเฉพาะเวลานอน สาว ๆ หลายคนมักจะรัดผมตึงแน่นเพื่อไม่ให้สร้างความรำคาญขณะหลับ แต่การรัดผมตึงแน่นนั้นจะทำให้เส้นผมอ่อนแอ หลุดร่วงได้ง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว

7. ใช้หวีซี่ถี่หวีผม หวีที่เหมาะกับทุกสภาพเส้นผมคือหวีซี่ห่าง เพราะมันจะไม่เสียดสีกับเส้นผมมากเกินไป จนอาจจะทำให้ผมพันกันได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้ผมขาดได้ง่ายอีกด้วย

และนี่ก็คือ 7 พฤติกรรมประจำวันที่ทำลายเส้นผมของสาว ๆ โดยไม่รู้ตัว ที่ควรหลีกเลี่ยงเสียแต่บัดนี้ และนอกจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมข้างต้นนี้ สาว ๆ ก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้เยอะ ๆ ในแต่ละวันด้วยนะคะ เพื่อการบำรุงเส้นผมที่ให้ผลดียาวนานค่ะ


ที่มา : http://www.panclinic.com

Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook