วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

หมายเลข กับ ความรัก

ตัวเลขมักสัมพันธ์กับชีวิตเราเสมอ คุณผู้อ่านว่าอย่างนั้นหรือเปล่าคะ ฉบับนี้เพื่อนแพนได้นำหมายเลขที่สัมพันธ์กับความรักมาให้ผู้อ่านได้พิจารณาว่า ใช่ตัวคุณหรือเปล่า


บุคคลหมายเลข 1 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 1,10,19 และ 28
ถูกควบคุมโดยพลังแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าแห่งความสดใส เป็นความรักที่ถูกกระตุ้นให้ร่าเริงอยู่เสมอกระตือรือร้นที่จะรักชอบแสดงออก เมื่อรักแล้วจะเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์เปี่ยมไปด้วย ชีวิตชีวาเป็น รัก ที่เปิดเผยมักจะบอกกล่าวให้คนรอบข้างและสาธารณชนได้รับรู้ในมุมกลับกันถ้ารักเป็นพิษหรือไม่สมหวังก็พร้อมที่จะแผดเผาด้วยอารมณ์ที่รุนแรงได้ เช่น กันมุมมองด้านความรัก คือทะเยอทะยานเร้าใจเหมือนรถแข่งที่พร้อมจะทะยานเข้าสู่เส้นชัย


บุคคลหมายเลข 2 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 2,11 ,20 หรือ 29
ถูกควบคุมโดยพลังแห่งดวงจันทร์ หรือเทพียามค่ำคืน เป็นความรักที่อ่อนโยนอบอุ่นโรแมนติก ครุ่นคิด ไตร่ตรอง ทบทวนแผ่วเ บาดำเนิน ไป อย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่องยาวนาน ในมุมกลับกันมักจะครุ่นคิดจนวิตกกังวล หึงหวงเกินขอบเขต มุมมองด้านความรัก คือ ลึกซึ้ง อ่อนโยนเหมือนเรือที่วิ่งเข้าสู่ท่าเทียบเรืออย่างสงบ


บุคคลหมายเลข 3 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 3, 12,21 และ 30
ถูกควบคุมโดยพลังของดาวพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าของการเรียนการสอนรูปแบบแห่งรักจึงมีการชี้นำการอบรม เป็นห่วงเป็นใยแบบพ่อแม่ดูแลบุตร พี่ชายดูแลน้องสาว ครูบาอาจารย์ดูแลศิษย์ มีความเอื้ออาทรเป็นสายใย นี่คือแบบฉบับของรักที่เปี่ยมไปด้วยไมตรี บางคู่ก็อาจเป็นรักที่เกิดจากคนต่างวัยแต่มีสายใยแห่งความเข้าใจ เป็นสิ่งผูกมัดในมุม กลับกันก็พร้อมที่จะเป็นรักในรูปแบบที่เย็นชา วุ่นวายเรื่องส่วนตัวเกินขอบเขต มุมมองด้านความรัก คือ การสนทนานำพาสติปัญญาให้งอกงาม


บุคคลหมายเลข 4 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 4,13,22 และ 31
ถูกควบ คุมพลั งแห่งรักโดยดา วมฤตยู หรื อดาวยูเรนัส เทพเจ้าแห่งความคิดอิสระ มีการกระทำในมุมที่ผู้อื่นคาดการณ์ไม่ถึงความรักบางครั้งก็ยากแก่การคาดการณ์ อาจเจอปุ๊บ รักปั๊บ หรือ ไม่ รักไ ม่หวง แต่คอยติดตามความคืบหน้าอยู่ตลอดเวลา ป็นความรัก ที่เกิดขึ้นได้โดย ไม่มีการเตรียมพร้อมแต่พร้อมที่จะ รัก ในมุมกลับกันก็พร้อมที่จะเย็นชาไร้ความรู้สึกไร้ความสนใจเหมือนทุกอย่างคือ ความว่างเปล่ามุมมองด้านความรัก คือ สายลมที่นำพาทุกอย่างมาพร้อมกัน53 A


บุคคลหมายเลข 5 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 5,14 และ 23
ถูกควบคุมโดยพลังแห่งดาวพุธ ซึ่งถือว่าเป็นดาวดวงเล็ก แต่มีฤทธิ์ค่อนข้างเกินตัว โดดเด่นทางด้านเดินทาง และมีวาทศิลป์ในการเจรจา สื่อถึงความรักที่โลดแล่นไปตามจังหวะชีวิตขึ้นลง ตามภาวะเหตุการณ์และการเจรจาพาที เป็นความรักที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสื่อสารถึงกันตลอดเวลา แม้ว่าจะห่างกันคนละมุมโลกความรักเหมือนปรอท เจอแล้วมักมีเหตุให้จากกันชั่วครู่ เมื่อทำภารกิจสำคัญสำเร็จแล้ว ถึงจะได้ย้อนกลับมาเจอกันอีก เรียกว่าจบลงด้วยดีในตอนปลาย ในมุมกลับกันมักเป็นประเภทรักง่าย หน่ายเร็ว มุมมองด้านความรัก คือ อกหักดีกว่ารักไม่เป็น


บุคคลหมายเลข 6 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 6,15 และ 24
ถูกควบคุมโดยเทพีวีนัส ซึ่งเปรียบเสมือนเทพีแห่งความรัก เต็มไปด้วยความรักที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ เป็นรักที่ยั่วยวนชวนให้หลงใหล เต็มไปด้วยสีสันจินตนาการที่ไร้ขอบเขต ในมุมกลับกันเป็นความรักที่ถูกครอบงำโดยการหลงใหล ประเภทรักไม่รู้จักกาลเทศะไม่รู้จักเวลา ขอเพียงให้ได้รักหรือถูกรักก็พอใจ มุมมองด้านความรัก ความรักคือโอสถทิพย์


บุคคลหมายเลข 7 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 7,16 และ 25
ถูกควบคุมโดยดาวพระเกตุ (เนปจูน) เป็นความรักที่ค่อนข้างอิสระเสรี เป็นตัวของตัวเอง เป็นรักที่มีจุดยืนชัดเจนว่าฉัน
เป็นของฉันอย่างนี้ คุณจะเป็นแบบไหนก็คือแบบฉบับของคุณ ขอเพียงแค่เข้าใจในจุดร่วมก็สามารถรักกันได้ ในมุมกลับกันบางครั้งอิสระมากเกินไป จนดูว่าห่างเหินขาดการติดต่อ ไม่สม่ำเสมอ มุมมองด้านความรัก คือ ขอบฟ้าที่กว้างไกลคือสายใยแห่งความรัก


บุคคลหมายเลข 8 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 8,17 และ 26
ถูกควบคุมโดยดาวเสาร์ เป็นตัวแทนของเทพเจ้าแห่งความสง่างาม ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ยามสงบนิ่ง ในด้านของ
ความรักมักจะก่อตัวอย่างเงียบๆ เปรียบเสมือนถ่านร้อนที่คุโชน เป็นรักที่ไม่ค่อยชอบแสดงออก หรือเปิดเผยในการกระทำมากมาย แต่ก็ก่อตัวอย่างสงบ และหนักแน่นมั่นคง ในมุมกลับกันบางครั้งก็ดูเย็นชาจนขาดความตื่นเต้นเร้าใจ มุมมองด้านความรัก คือ หนักแน่นและมั่นคงดุจขุนเขา


บุคคลหมายเลข 9 หรือผู้ที่เกิดวันที่ 9,18 และ 27
ถูกควบคุมโดยดาวอังคาร ในแง่ของความรักแล้วถือว่า เป็นรักที่ต้องแข่งขันถึงจะเข้าเส้นชัยเป็นคู่รักที่ต้องใช้ความอดทน จนถึงขั้นทรหดในการประคองความรัก แต่ถ้าถึงที่หมายแล้วล่ะก็เชื่อได้ว่าจะเป็นอมตะแห่งรักที่มั่นคงและอบอุ่น ในมุมกลับกันเป็น ความรักที่ก้าวร้าว เห็นแก่ตนเองเป็นสำคัญ มุมมองด้านความรัก คือ การแข่งขันย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ



ที่มา http://www.panclinic.com


วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผมสวยปราศจากรังแค

เส้นผมของเรานั้นมีหลายลักษณะ แต่ละลักษณะจะมีความแตกต่างกัน และมีวิธีการดูแลที่ไม่เหมือนกัน หากเราไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพเส้นผมให้ถูกวิธี อาจจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะของเรามีปัญหาตามมา เช่น ผมแตกปลาย หรือเกิดรังแค เส้นผมช่วยเสริมบุคลิกภาพของเราได้ แล้วคุณทราบหรือไม่ว่า ผมของคุณมีลักษณะแบบไหน และมีวิธีการดูแลรักษาอย่างไร

ผมธรรมดา มีลักษณะเส้นผมที่มีสุขภาพดี มีความเงางามตามธรรมชาติ ไม่แห้งเกินไป และไม่มันเกินไป เส้นผมจะอยู่ทรงและจัดทรงง่าย การดูแลจึงง่ายไม่ค่อยจะมีปัญหามากนัก สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็พอค่ะ

ผมแห้ง มีลักษณะขาดความเงางาม ดูแล้วรู้สึกหยาบกระด้าง ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของโปรตีน เน้นนวดที่ปลายผมให้มาก หลังจากสระผมเสร็จแล้วให้เลือกใช้วิตามินบำรุงเส้นผมด้วยค่ะ อาจเสริมด้วยการหมักผมอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

ผมแตกปลาย มีลักษณะของเส้นผมแห้ง ดูขาดชีวิตชีวา และแตกบริเวณส่วนปลายผม หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี เช่น ย้อมผม ดัดผม ยืดผมบ่อยเกินไป จะทำให้เส้นผมแตกปลายได้ง่ายขึ้น การดูแลผมแตกปลายที่ดีที่สุดก็คือเล็มส่วนปลายผมที่แตกปลายออก เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผมที่แห้งเสีย ใช้ครีมนวดผมเป็นประจำ รวมถึงการอบไอน้ำเดือนละ 2 ครั้ง

ผมฟู มีลักษณะแห้งขาดความชุ่มชื้น ขาดน้ำหนัก ขาดชีวิตชีวา การดูแลควรเลือกใช้แชมพูสระผม สำหรับผมแห้งโดยเฉพาะ ควรใช้ครีมนวดผมเป็นประจำเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ควรหมักผมสัปดาห์ละครั้ง

ผมมัน มีลักษณะหนังศีรษะมันมาก ผมเป็นมันเยิ้ม ลีบแบน มีฝุ่นละอองปลิวมาติดง่ายเป็นเหตุให้เกิดอาการคันศีรษะ ซึ่งผู้ที่มีปัญหาผมมันจะทำให้เกิดรังแคได้ง่าย สาเหตุเกิดจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะ ผลิตน้ำมันมากเกินไป การดูแลเส้นผมง่ายๆ คือ สระผมทุกวัน หรือวันเว้นวัน ถ้าใช้ครีมนวดให้นวดปลายผมเท่านั้น ลดอาหารจำพวกไขมัน และลดความเครียด เพื่อให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนได้ในระดับปกติ

ผมเป็นรังแค มีลักษณะหนังศีรษะที่แห้งและแตกเป็นขุยเนื่องจากความระคายเคือง การชะล้างแชมพูหรือครีมนวดผมออกไม่หมดจนเกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ หรือเกิดจากความเครียด ทำให้ภูมิต้านทานลดลงจนเกิดเชื้อราขึ้น โดยมีวิธีดูแลง่ายๆ เพื่อที่คุณจะได้มีเส้นผมที่สวยและปราศจากรังแค ขอแนะนำให้ปฏิบัติดังนี้ค่ะ

1. ใช้แชมพูที่รักษารังแคโดยเฉพาะ แชมพูที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole หรือ Selenium sulfide (Zinc Pyrithione)
2. เวลาสระผม จะต้องทิ้งตัวยาบนผมอย่างน้อย 5 นาที เพื่อให้ตัวยาสัมผัสกับหนังศีรษะ และใช้ครีมนวดผมสูตรเฉพาะเพื่อรักษารังแคร่วมด้วยนะค่ะ
3. ควรสระผมทุกวันจนกว่าจะหาย เมื่อหายแล้ว ให้คุมอาการอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าหายแล้วก็อาจจะสระวันเว้นวันหรือ 2 วันสระก็ได้ แต่ควรสังเกตดูอาการ วันไหนมีอาการคันก็ควรสระผมด้วยค่ะ
4. ถ้าระหว่างวันมีอาการคันสามารถใช้ CM Lotion ทาตรงบริเวณที่คัน


เมื่อเรารู้วิธีการรักษาแล้วก็ต้องนำไปปฏิบัติด้วยนะค่ะสำหรับคนที่มีปัญหารังแค สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่แพนคลินิก K Shampoo เป็นแชมพูรักษารังแค มีส่วนประกอบของ Ketoconazole และมี Dandostat เป็นครีมนวดที่เสริมการรักษารังแค มีส่วนประกอบของ Zinc Pyrithione


ที่มา http://www.panclinic.com



วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีกระชับคางย้อยเข้ารูปทรง

ใครที่กำลังหาวิธีแก้ปัญหาคางไม่ได้สัดส่วน หรือคางย้อย วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีกระชับคางย้อยเข้ารูปทรงมาฝากกัน...


การแก้ปัญหาคางที่ไม่ได้สัดส่วน หรือคางย้อย

ให้กลับมาสวยงามได้ รูปทรง คาง เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญของความงามบนใบหน้า ตามวิธีธรรมชาติโดยไม่ต้องทำศัลยกรรมตกแต่ง ให้สิ้นเปลืองเงินทองหรือเสี่ยงอันตรายสามารถทำได้โดย


เริ่มต้นจากตอกไข่

คัดเอาแต่ไข่ขาวล้วน ๆ ตีเบา ๆ นำมาทาใต้คางและแก้มส่วนล่างที่หย่อนยาน เริ่มกระบวนการจากใต้ใบหูข้างหนึ่ง ไปอีกข้างหนึ่ง โดยใช้หัวแม่มือแตะใต้กกหู แล้วค่อย ๆ ยกขึ้น วนไปตามแก้มและคาง กดและยกเบา ๆ อยู่ประมาณ 15 นาที ถ้ากลัวเมื่อยก็เอาข้อศอกเท้าโต๊ะไว้ รอจนไข่ขาวแห้งสนิท แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำอย่างนี้เพียงอาทิตย์ละสองครั้งก็จะแก้ปัญหานี้ได้แล้ว



ถ้าใครรู้ตัวว่า คางไม่ได้สัดส่วน หรือคางย้อย ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้

ที่มา : http://www.panclinic.com

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การปัดขนตาให้งอนสวย

วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีการปัดขนตาให้งอนสวยมาฝากกัน...



1. ถ้าแปรงปัดชุ่มไปด้วยเนื้อมาสคาร่า ให้ใช้กระดาษทิชชูซับขนแปรงก่อน จะทำให้มาสคาร่าไม่เลอะขณะปัดตา



2. ควรหลีกเลี่ยงการชักแปรงเข้าออกจากหลอด เพราะจะทำให้เนื้อมาสคาร่าแห้งเร็ว



3. ถ้าอยากให้เนื้อมาสคาร่าติดแปรงปัดมากขึ้น ให้หมุนแปรงขณะที่อยู่ข้างในหลอด



4. ควรปัดมาสคาร่าเคลือบขนตามากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ขนตาดูหนาและยาวขึ้น ควรปัดซ้ำอีกรอบโดยปัดจากโคนขนตาไปถึงปลายขนตา หากปัดพลาด ให้ปัดซ้ำครั้งที่ 3 เฉพาะตรงปลายขนตาเท่านั้น และควรรอให้มาสคาร่าครั้งแรกแห้งก่อนแล้วจึงปัดซ้ำอีกครั้ง



5. การปัดมาสคาร่าที่ขนตาล่างให้ปัดแปรงไปตามแนวขวางเพื่อไม่ให้เนื้อมาสคาร่าเลอะเกินไป ช่วยให้ขนตาไม่ติดกันเป็นแพและแข้งกระด้าง



6. อายุของมาสคาร่าอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้เนื้อมาสคาร่าจะแห้งและเกาะกันเป็นก้อน



7. ถ้ามีรอยคล้ำที่ดวงตา ให้ปัดเฉพาะขนตาบนเพราะจะทำให้ดวงตาเปล่งประกายสดใส



8. ถ้าเป็นคนที่มีตาชิด ให้ปัดมาสคาร่าเฉพาะด้านหางตาทั้งขนตาบนและล่าง



9. ถ้าคนมีดวงตาโตลึก ให้ปัดมาสคาร่าทั้งขนตาบนและล่าง และแปรงตาให้เรียงเส้นสวยงาม



10. ถ้าเป็นคนตาเล็ก ให้ปัดมาสคาร่าเฉพาะขนตาบนและเน้นที่ขนตาด้านนอก



ถ้าอยากมีขนตาที่งอนสวย ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้


ที่มา http://www.panclinic.com


Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook