วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ผิว ‘แก่’ ง่ายแก้ไขไม่ยาก



 

สภาพผิวของคนเรานั้นมีหลายแบบ โดยแต่ละแบบก็มีวิธีดูแลแตกต่างกันไป เพื่อที่จะสามารถบำรุงส่วนที่ขาด เสริมส่วนที่มีอยู่ และกำจัดส่วนเกินออกไปได้อย่างเหมาะสม ส่วนสภาพผิวเจ้าปัญหาสำหรับสาวๆ เห็นจะหนีไม่พ้นสภาพ “ผิวแห้ง” โดยเฉพาะบริเวณ ข้อศอก หัวเข่า ต้นแขน ต้นขา เป็นต้น ปัญหานี้ไม่ใช่แค่ทำให้เราขาดความมั่นใจเท่านั้น แต่สภาพผิวแห้งนี่แหละที่เป็นตัวการที่ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบผื่นคันได้ง่าย แถมยังแก่เร็วอีกด้วย แบบนี้สาวๆ คงไม่ชอบกันแน่นอน งั้นเราลองมาเรียนรู้วิธีบำรุงดูแลผิวอย่างถูกต้องกันตอนนี้ดีกว่า...เพราะถึงจะมีผิวแห้งแตกลายแค่ไหน แต่ถ้าดูแลอย่างต่อเนื่องเหมาะสม คุณก็สามารถมีผิวสวยเหมือนคนอื่นได้แน่นอน

ล้างหน้าให้สะอาด แต่อย่าทำให้ผิวแห้งขึ้น
คนผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง โดยควรเลือกใช้เจลใส สบู่ไร้ฟอง สบู่ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพราะถ้าไม่เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าในแบบดังกล่าวหลังล้างหน้าจะรู้สึกได้ว่าหน้าตึง แห้งลอกเป็นขุย ทำให้มีปัญหาของริ้วรอยได้ง่ายอีกด้วยค่ะ และในการล้างหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งคือ อย่าไปขัดถูแรงๆ หรือ ทำให้เกิดการรบกวนกับผิวหน้าให้มาก เพราะยิ่งคุณสัมผัสผิวรุนแรงมากเท่าไหร่ผิวคุณก็อักเสบได้ง่ายมากเท่านั้น

โทนเนอร์ไม่เหมาะกับสาวผิวแห้ง
หลังล้างหน้าสาวๆ ผิวแห้งควรข้ามขั้นตอนก็เช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ไปเลยค่ะ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น คุณควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้นที่จำเป็นสำหรับผิวก็เพียงพอ โดยทาทุกครั้งที่ล้างหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

พยายามใช้เครื่องสำอางแบบเนื้อครีมก่อนแต่งหน้าทุกครั้งสาวผิวแห้งอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นก่อนขั้นตอนลงรองพื้น เพื่อช่วยลดการลอกขุยบนใบหน้า และทำให้เกลี่ยรองพื้นได้เนียนขึ้น เครื่องสำอางแบบเนื้อครีมจะเหมาะกับสาวผิวแห้งมากกว่าสาวผิวมัน เช่น อายแชโดว์ชนิดครีม บลัชออนชนิดครีมเพราะเครื่องสำอางชนิดนี้มีส่วนผสมของน้ำมันผสมอยู่ ทำให้ติดทนนานขึ้นโดยการทาบลัชออนแบบให้สวย ต้องใช้ปลายนิ้วลูบบลัชออนชนิดครีมเป็นวงกลม โดยเริ่มจากจุดสูงสุดของโหนกแก้มแล้วเกลี่ยขึ้นไปทางขมับ แต่การใช้บลัชออนชนิดนี้ไม่ควรทาแป้งหนาเกินไปเพราะจะเกลี่ยให้เนียนยาก ถึงอย่างไรก็ตามสาวๆ ผิวแห้งก็มีข้อดีเหมือนกัน เนื่องจากมีรูขุมขนที่กระชับไม่มีไขมันบนใบหน้าหน้าไม่มัน เวลาแต่งหน้าเครื่องสำอางจึงติดทนไม่เยิ้มเหมือนคนผิวมัน


ใช้เวลาอาบน้ำให้น้อยที่สุด
จริงๆ แล้วยิ่งเราอาบน้ำบ่อยเท่าไหร่ยิ่งจะช่วยชำระล้างไขมันและสิ่งสกปรกออกจากผิวไปมากเท่านั้น แต่สำหรับสาวผิวแห้งแล้วขั้นตอนการอาบน้ำก็ต้องระมัดระวังไม่แพ้กัน ซึ่งควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น และไม่ควรอาบน้ำเกิน 2 ครั้งต่อวัน นอกเสียจากในวันที่อากาศร้อนมีเหงื่อออกเยอะอาจจะอาบเพิ่มได้ และควรเลือกฟอกสบู่เฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันสูง เช่น แผ่นหลัง หน้าอก และใช้เวลาในอาบน้ำให้น้อยที่สุด สบู่ที่ใช้ควรเป็นสบู่อ่อน และมีสารเพิ่มความชุ่มชื่น หลังอาบน้ำเสร็จแล้วอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวทุกครั้ง โดยเฉพาะตามแขนขา ข้อศอก หัวเข่า ซึ่งจะเป็นบริเวณที่แห้งพิเศษ เพราะมีต่อมไขมันค่อนข้างน้อย


น้ำมันออยล์อาวุธประจำกาย

การบำรุงผิวด้วยน้ำมันออยล์เรียกว่าเหมาะสำหรับสาวผิวแห้งโดยเฉพาะ หลังอาบน้ำเสร็จเช็ดตัวให้หมาด ขั้นตอนต่อไปคือทาน้ำมันออยล์และตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ที่คุณชอบอีกรอบ ซึ่งออยล์ที่คุณเลือกควรมีคุณสมบัติที่ซึบซาบเข้าผิวง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถทาได้ทั้งหน้าและลำตัว ถ้ามีเวลาว่างสามารถใช้ออยล์ร่วมกับการนวดผิวก็ได้ค่ะ เป็นการทำสปาง่ายๆ ที่บ้านโดยใช้ออยล์นวดแทนน้ำมันอโรมา หรือใช้นวดร่วมกับสมุนไพร เช่น ขมิ้น หรือ มะขามเปียก เป็นต้น วิธีการนี้นอกจากจะช่วยให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูสุขภาพผิวของคุณที่ถูกทำลายจากมลพิษได้อีกด้วย
อย่าลืมผิวรอบดวงตาเมื่อคุณเป็นสาวผิวแห้งก็จงอย่าลืมว่าผิวคุณมักเกิดริ้วรอยง่ายกว่าผิวคนอื่น โดยเฉพาะที่เห็นกันบ่อยๆ ก็คือริ้วรอยรอบดวงตา และยิ่งถ้าคนผิวแห้งแล้วไม่ดูแล เมื่อคราวถึงวัย 20 ต้นๆ ตีนกาก็มาเยือนแล้ว ดังนั้นคุณควรบำรุงผิวผิวรอบดวงตาให้มากเป็นพิเศษ โดยการใช้ครีมรอบดวงตาในทุกๆวันโดยเฉพาะในเวลากลางคืน และควรรับประอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวร่วมด้วย เช่น ถั่ว กระเทียม แครอท ผลไม้ ไข่ และนม ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้ว และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ



ที่มา :
www.panclinic.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Panclinic Club's Fan Box

Panclinic Club on Facebook